รับมืออย่างไร หากคู่เดทกลายเป็นคนเจ้าชู้เงียบ
การที่คนเราจะเริ่มต้นสนใจคบ หาแฟนสักคน หรือรับใครสักคนเข้ามาในชีวิต พฤติกรรมหรือนิสัยบางอย่างคนเราก็ปิดกันไม่มิด หรือถ้าปิดมิดยังไงสุดท้ายก็ต้องมีหลุดออกมาให้จับได้กันบ้าง สำหรับคนที่รู้อยู่ก่อนแล้วว่าคนที่มาออกเดทกับคุณเป็นคนเจ้าชู้ เรียกว่าหูดำแบบเปิดเผย หรือเฉลยกันตั้งแต่ต้น ยังไม่น่าปวดหัวเท่าไร รับได้ก็คบ รับไม่ได้ก็จบกันไป….แต่ถ้าคุณไปเจอประเภทที่ค่อยๆกลายพันธุ์ จากสุภาพบุรุษ/สุภาพสตรีชวนฝัน กลายเป็นนักดาบจ้องฟันดะขึ้นมา สมมติว่า คุณสังเกตพฤติกรรมของเขาหรือเธอแล้ว เกิดรับไม่ได้ขึ้นมา แต่ยังอยากจะให้โอกาส จะต้องทำอย่างไร ความสัมพันธ์จึงจะไปรอด เรามีคำแนะนำในเบื้องต้น ด้วยหลักการที่เรียกว่า “ให้ 3 เด้ง” มาฝากกันครับ
• ให้ความเข้าใจ ก่อนอื่นต้องทำความเข้าใจก่อนว่า คนที่เจ้าชู้เงียบๆส่วนใหญ่ จะไม่ก้าวร้าวเหมือนกับพวกคาสโนว่าหรือพวกหลงตัวเอง ที่หุนหันพลันแล่นไปกับควมปรารถนาตามความต้องการของตัวเอง หากแต่พวกเขาเพียงต้องการความตื่นเต้นแปลกใหม่ในชีวิตบ้างนานๆครั้ง เนื่องจากมีสภาวะอารมณ์ที่เงียบเหงา ขาดความรักความอบอุ่น หรือมีแต่เรื่องน่าเบื่อซ้ำซากเป็นเวลานานๆ ดังนั้น คุณต้องบอกเขา(หรือเธอ)ไปตรงๆว่า คุณได้สังเกตเห็นแนวโน้มความไม่ซื่อสัตย์ของเขาบ้างแล้วนะ แต่คุณก็ยังเข้าใจด้วยว่านั่นเป็นเรื่องปกติ และเป็นเพียงเพราะเขากำลังมองหาสิ่งที่คุณขาดไปอยู่ ซึ่งหากมีอะไรที่ชั้นจะทำเพื่อให้คุณรู้สึกดีขึ้นได้ ก็ขอให้กระซิบบอกมา บอกเขาไปประมาณนี้ รับรองได้ว่าการกลายพันธ์(จากแมวเป็นเสือ)ของเขา จะถูกยับยั้งด้วยความรู้สึกผิด บวกกับความประทับใจในความอ่อนโยนของคุณ จนแทบน้ำตาซึมเลยทีเดียว
• ให้อิสระแบบอยู่ในสายตา ถึงแม้เขาจะซาบซึ้งในความเอ็นดูของคุณที่มีต่อเขา ดั่งแม่ที่เข้าใจลูกมากมายเพียงใด แต่สัญชาติญาณความโหยหาของเขา มักจะคอยพร่ำบอกเขาในหัวของเขาเองว่า “ของแปลกใหม่ มันน่าสนใจมากกว่าของเก่าเสมอ” ดังนั้นอย่าแปลกใจ หากวันต่อๆไป ลูกแมวของคุณจะเริ่มโผล่เขี้ยวเล็บบางอย่างให้เห็นอีก เช่น การชายตา/เหลียวหลังมองเพศตรงข้าม หรือการพูดหยอกพูดแซวเล่นกับคนอื่นในเชิงหว่านเสน่ห์ นั่นเป็นเพราะถึงแม้ความอบอุ่น (จากความเข้าใจของคุณ) จะเริ่มเกิดขึ้นในใจเขาแล้ว แต่ยังมีเชื้อดื้อเงียบ (Passive Aggressive) หลงเหลืออยู่ เนื่องจากส่วนใหญ่คนประเภทนี้มักจะรู้สึกอยากมีอิสระที่จะทำตามใจตนเองเหมือนพวกเจ้าชู้เปิดเผยบ้าง
พูดง่ายๆว่า อยากมีอำนาจเหนือกว่าในความสัมพันธ์ ในบางอารมณ์ ก็เลยอาจจะมีการลองใจคุณบ้างเป็นบางครั้ง ดูว่าคุณจะมีปฏิกริยาอย่างไร ซึ่งหากคุณยิ่งห้ามก็จะเหมือนกับยิ่งยุ แต่หากคุณปล่อยให้อิสระ ไม่ไปห้ามปรามเขา (โดยเฉพาะต่อหน้าคนอื่น) เขาก็จะหยุดพฤติกรรมดังกล่าวไปเอง จนคุณต้องแปลกใจ ว่าไหงเป็นงั้นไปได้ อย่างเช่น คุณแอมกับคุณก้อง คู่เดทคู่หนึ่งจากบริการหาคู่หรือ Matchmaking ของเรา ที่เคยเล่าให้ฟังในเรื่องนี้ “เรื่องนี้มันคล้ายกับการเลิกสูบบุหรี่นะ คือมันไม่ได้ยากอะไรหรอก ถ้าเราเต็มใจจะทำ ฮ่าๆ” คุณก้องเปรียบเทียบให้ฟัง พลางหัวเราะ “คือตอนที่แอมเขาขอให้ผมเลิกสูบบุหรี่ ผมก็ยิ่งสูบมากกว่าเดิม เพราะรู้สึกเหมือนถูกสั่ง แต่อยู่มาวันหนึ่ง พอแอมเขาตะคอกใส่ผมว่า อยากสูบก็สูบๆให้ตายไปเลย แอมจะได้ไม่ต้องมาคอยห่วงใยก้องอีก เท่านั้นแหละ ผมก็เลิกสูบเลย ผมเพิ่งมารู้ตอนหลังจากทีมงานมีทแอนลั้นช์นี่แหละ ว่านี่มันคืออาการดื้อเงียบ ซึ่งมีคนอีกหลายๆคนที่เป็นเหมือนกัน” “เรื่องที่ก้องแอบเจ้าชู้เงียบ แอมก็ใช้วิธีเดียวกันนี่แหละค่ะ ทำให้เขาเลิกเจ้าชู้ได้” คุณแอมได้โอกาสเสริมบ้าง ทำเอาหนุ่มก้องยิ้มเจื่อนไปเลยทีเดียว
• ให้คำขาด ข้อนี้ต่อเนื่องมากข้อที่แล้ว และขาดไม่ได้เลยทีเดียว หลังจากที่แสดงให้เขาหรือเธอเห็นว่าคุณเข้าใจแล้ว แถมยังให้อิสระอีกในระดับหนึ่งด้วย แต่สุดท้ายก็ต้องทำให้เขาตระหนักด้วยเช่นกันว่า ทุกอย่างนั้นมีขอบเขต คุณจะไม่พูดซ้ำและไม่เดทด้วยอีกต่อไป หากเขาหรือเธอเกิดไปมีความสัมพันธ์ลึกซึ้งกับคนอื่น ซึ่งวิธีที่จะยื่นคำขาดนี้ ก็แค่บอกไปตรงๆ เพียงแต่อย่าทำน้ำเสียงข่มขู่หรือซีเรียสมาก เพราะมันจะไปกระตุ้น ‘ต่อมดื้อเงียบ’ ของเขาอีก ให้พูดแบบซึ้งๆ ในช่วงเวลาที่กำลังมีความสุขราบรื่นร่วมกัน รับรองว่าเขาจำขึ้นใจแน่….แต่ที่สำคัญกว่านั้น คือคุณต้องซื่อสัตย์ต่อตนเองด้วยนะครับ คำไหนคำนั้น ไม่งั้นจะเสียการปกครองในภายหลังได้นะ จะบอกให้
สนใจบริการจัดหาคู่ ติดต่อสอบถามได้ที่ ไลน์บริษัทจัดหาคู่ MeetNLunch Line id: @meetnlunch (ใส่ @ ข้างหน้าด้วยนะคะ)
บทความน่าอ่านอื่นๆ
วิธีแชทให้เขาหลงรัก
วางตัวอย่างไรให้ชายหนุ่มคิดถึงคุณมากขึ้น
วิธีสังเกตแฟนหนุ่มว่า “จริงใจ” และ “จริงจัง” กับคุณ
อ่านภาษากายรู้ลึกไปถึงก้นบึ้งหัวใจ
ธรรมะสอนใจ นำธรรมะมาใช้กับความรัก
วิธีตัดใจเมื่อรักเขา “ข้างเดียว”