วาจาสำคัญไฉน ?? – บริษัทจัดหาคู่
หลายคนเชื่อในการเปิดอกพูดคุยกัน เชื่อว่าการเปิดใจพูดคุยกันในทุกเรื่องคือการแก้ปัญหาที่ดีที่สุด แต่เคยเจอปัญหาแบบนี้ไหมครับ คุยกันไม่รู้เรื่อง คุยไปคุยมาฝ่ายหนึ่งฝ่ายใดก็เป็นฝ่ายผิดตลอด ฯลฯ
พอคุยไม่รู้เรื่องก็เลยพาลไม่คุยกัน เกิดปัญหาใหญ่กว่าเดิม พอวันผ่านไป ก็ฟอร์มๆคุยกันแบบไม่มีอะไรเกิดขึ้น แต่ต่างฝ่ายต่างก้ยังคาใจกันอยู่ แต่ก็ไม่อยากคุยกันให้ทะเลาะกันอีก อดทนกันไป ปลอบใจตัวเองว่าเล็กๆน้อยๆ เดี๋ยวก็ลืม แต่ในความเป็นจริงคุณๆรู้มั้ยครับว่า ในเบื้องลึก เราไม่ได้ลืมแน่นอน ความอดทนคนเราย่อมมีวันสิ้นสุด พอถึงเวลาความอดทนของเราหมดลง ก้ระเบิดลงครับ จะนานแค่ไหน พ่อเจ้าประคุณแม่เจ้าประคุณ(ที่หลอกตัวเองว่าลืมๆไป) กลับจำได้หมดทุกรายละเอียด โดยเฉพาะความผิดความไม่ดีของอีกฝ่าย พอทะเลาะกันก็เลยขุดเรื่องเก่าๆมา"คุย"กันอีก
จากปัญหาที่เล็กๆน้อยๆจริง กลายเป็นปัญหาใหญ่ที่เรื่องราวบานปลายใหญ่โต การจะทำอะไรสักอย่างควรมีศิลปะในการปฏิบัติครับ ไม่ใช่สักแต่ทำลวกๆ ทำอาหารก็ต้องมีศิลปะการทำอาหารมันถึงจะน่ากิน การเล่นดนตรีก็ต้องมีศิลปะในการเล่นครับมันถึงจะน่าฟัง การพูดคุยกันเช่นเดียวกันครับ ย่อมต้องมีศิลปะการพูดคุยในชีวิตคู่
1. ไม่มีใครคิดว่าตัวเองผิด
อีกฝ่ายจะมีเหตุผลในทุกการกระทำ ใจเขาใจเราครับ เราก็ยังไม่คิดว่าเราผิด เขาก็เช่นกัน เป็นเรื่องธรรมชาติของมนุษย์ไม่ใช่ว่าอีกฝ่ายเห็นแก่ตัวหรอกครับ การพูดคุยกัน ก็เพื่อที่ว่า ให้อีกฝ่ายเข้าใจในมุมมองของเรา ให้เราเข้าใจมุมมองของเขาว่าเหตุใดเขาจึงทำเช่นนี้ เหตุใดเราจึงไม่ชอบอย่างนี้ ไม่ใช่การพูดคุยเพื่อหาคนผิดคนถูก
2. หากมีเรื่องต้องคุยกันให้รู้เรื่องไม่ควรคุยกันทางโทรศัพท์
คนเราคบกันมาระดับนึงจะเริ่มรู้ว่าอีกฝ่ายตอนโกหกสีหน้าและแววตาเป็นอย่างไร หรือพูดจริงๆหนักแน่นสีหน้าแววตาเป็นอย่างไร การคุยเพื่อเคลียร์กันทางโทรศัพท์จะไม่เห็นสีหน้าและแววตาอีกฝ่าย ทำให้คุยกันยาก บางทีอาจมีอารมณ์ชั่ววูบตัดสายไป ทำให้งอนเผลอๆเกิดทิฐิต่างฝ่ายต่างทิฐิ
3. เมื่อคุยเรื่องใดเรื่องหนึ่ง ต้องคุยให้จบอย่าปล่อยข้ามคืนครับ
เพราะบางทีเมื่อข้ามคืนแล้วพอตื่นมาบางประเด็นที่จะคุยก็ลืมไปจำไม่ได้ว่าจะคุยอะไร แถมเมื่อคืนที่คุยก็พอจะเคลียร์ไปนิดหน่อยแล้วก็เลย"ช่างมันเถอะ" แต่จริงๆก็อย่างที่บอกไม่ได้ลืมหรอกครับ มันแค่ตกตะกอนไปนอนนิ่งๆในใจเราเท่านั้นเลยนึกไม่ออก แต่พอระเบิดทีก็ขุ่นขึ้นมาที กลายเป็นเอาเรื่องเก่ามาพูดอีก เลยยิ่งไปกันใหญ่
4. คำที่อันตรายที่สุดในชีวิตคู่คือ"ช่างมันเถอะ"
คำนี้ในที่นี้หมายถึงเวลาที่เราเจอเรื่องขัดใจเล็กๆน้อยๆแล้วไม่อยากทะเลาะก็เลย"ช่างมันเถอะ" อันนี้อันตรายเพราะเวลาสะสมเรื่องเล็กๆน้อยๆไว้เยอะๆ เมื่อความอดทนถึงที่สุดก็เหมือนฟางเส้นเดียวทำให้ม้าหลังหัก อีกฝ่ายก็เลยคิดว่า เรื่องเล็กๆน้อยๆแค่นี้ทำไมถึงทำให้เป็นเรื่องใหญ่ พาลรำคาญกันไป นี่แหละหนาพระท่านว่า หินก้อนใหญ่ไม่มีใครเดินไปชนมัน แต่ฝุ่นละอองเล็กๆนี่แหละ ที่มันจะระคายเคืองดวงตาเรา แต่ทั้งนี้ทั้งนั้นคำว่าช่างมันเถอะจะดีเป็นอย่างยิ่งถ้าเราคุยจนเข้าใจมุมมองกันแล้วแล้วอภัยให้กัน
5. พึงระลึกเสมอว่าคนเราแตกต่างกัน
ผู้หญิงต่างจากผู้ชาย ต่างคนต่างโตมาต่างสภาพแวดล้อม ต่างสภาพการเลี้ยงดู ความคิดย่อมแตกต่างกัน อย่าเอาความคิดเราตัดสินคนอื่น อย่าไปคิดว่าเขาเห็นแก่ตัวจนกว่าจะคุยกันจนเป็นที่เข้าใจแล้วว่าไอ้นี่มันเห็นแก่ตัวจริงๆนี่หว่า ดังนั้นไม่พอใจอะไรก็คุยกันซะครับ คนเราเปลี่ยนเลยไม่ได้หรอกครับ แต่ปรับได้ต้องค่อยๆปรับ ช่วงที่ปรับต้องอาศัยความอดทนเป็นอย่างยิ่ง แต่ความอดทนผลของมันหอมหวานเสมอครับผม
บทความแนะนำน่ารู้อื่นๆ
มุมมองความรักของผู้ชายและผู้หญิง ที่ต่างกันสุดขั้ว!
เส้นกั้นบางๆ ระหว่าง ความรัก(แท้) กับ ความหลง(รักเทียม)
คุณสมบัติของคนที่คุณควรเลือกมาเป็นคู่ชีวิต
ทำอย่างไรให้เขาเปิดใจให้คุณ
สนใจบริการจัดหาคู่ ติดต่อสอบถามได้ที่ ไลน์บริษัทจัดหาคู่ MeetNLunch Line id: @meetnlunch (ใส่ @ ข้างหน้าด้วยนะคะ)
โพสต์แนะนำ
7 วิธีขอเป็นแฟน ไม่ควรพลาด ถ้าไม่อยากติด Friend Zone ลองทำแบบนี้!
แนะนำ 12 ข้อดีของการมีแฟน มีแล้วดีอย่างไร?
5 ข้อสำคัญควรคำนึง ก่อนเริ่มหาแฟนต่างชาติจากเว็บไซต์หาคู่