บทความแนะนำน่ารู้สำหรับคุณ
ความรู้สึกของผู้ใช้บริการ บริษัทจัดหาคู่ MeetNLunch
ทำไมคุณถึงรู้สึกเหนื่อยตลอดเวลา
สัญญาณที่บอกว่าได้เวลา “เป็นแฟนกันได้แล้ว”
ควรคุยกับเค้านานเท่าไหร่ถึงตกลงใจเป็นแฟนกัน
สถิติด้านการออกเดท – บริษัทจัดหาคู่
MeetNLunch เปิดผลสำรวจทัศนคติคนกรุงเทพฯ จากเดือนกุมภาพันธ์ 2553เกี่ยวกับการหาคู่ครอง และความคิดเห็นด้านการออกเดท คุณนิกกี้-นิธินันท์ อัศวทร ผู้บริหาร บริษัท MeetNLunch บริษัทจัดหาคู่มืออาชีพ ให้บริการด้านคำปรึกษาและแนะนำหนุ่มสาวให้รู้จักกันในรูปแบบส่วนตัวเป็นครั้งแรกในประเทศไทย เปิดเผยถึงผลสำรวจทัศนคติคนกรุงเทพฯเกี่ยวกับการหาคู่ครองจากการออกแบบสอบถามสมาชิกที่มาใช้บริการกับบริษัทและประชาชนทั่วไปจำนวน 800 คนแบ่งเป็นเพศหญิง 70% (อายุระหว่าง 25-50 ปี) เพศชาย 30%(อายุระหว่าง30-55 ปี)ในจำนวนนี้เกือบทั้งหมดเป็นคนกรุงเทพฯ, จบการศึกษาอย่างน้อยปริญญาตรี และยังเป็นโสด พบข้อมูลที่น่าสนใจดังนี้
สถิติด้านการออกเดท
จากผลสำรวจด้านการออกเดท ข้อมูลที่พบบอกว่าผู้หญิงต้องแข่งกับเวลามากกว่าผู้ชาย เพราะผู้ชายส่วนใหญ่ ถึงแม้จะมีอายุมากขึ้น ก็ไม่มีปัญหาในการเจอคนใหม่ๆ ในขณะที่เมื่อผู้หญิงมีอายุเพิ่มมากขึ้น โอกาสในการออกเดทจะลดลงอย่างเห็นได้ชัด ผู้หญิงวัย 23-36ปีกว่า 50% บอกว่าในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา พวกเธอได้ออกเดทกับคนใหม่ๆประมาณ 2-5คน
20% บอกว่า 1 คน
และ 30% บอกว่าไม่ได้เจอเลย
ในขณะที่ ผู้หญิงช่วงอายุ 37 ปีขึ้นไปประมาณ 65% บอกว่า ไม่ได้ออกเดทเลยใน 1 ปีที่ผ่านมา และเพียง 35% ที่บอกว่าได้ออกเดทบ้าง ในขณะที่ผู้ชายทุกช่วงวัยกว่า 60% บอกว่าพวกเขาได้ออกเดทกับคนใหม่ๆ ในช่วง 1 ปีที่ผ่านมา
โดยในจำนวนนี้ ช่วงอายุที่ได้ออกเดทมากที่สุดคือผู้ชายวัย 37 ปีขึ้นไป กว่า 60% บอกว่าได้เจอคนใหม่ๆประมาณ 2-5 คน ในขณะที่ผู้ชายที่อายุน้อย (23 - 36 ปี) ประมาณ39% บอกว่าได้เจอคนใหม่ๆ 2-5 คนใน 1 ปีที่ผ่านมา
นอกจากนี้ที่เหลือแบ่งเป็น 30% ได้เจอ 1 คน 25% ไม่ได้เจอเลย และ 6% บอกว่าได้เจอมากกว่า 6 คนขึ้นไป
คนโสด กับ จุดเริ่มต้นของการทำความรู้จัก
ผู้ชายทุกวัยประมาณ 35% อยากใช้เวลาในวันหยุดโดยการเจอคนใหม่ๆมากกว่าอยู่บ้านกับครอบครัว โดยผู้หญิงที่ตอบเหมือนกันมีสัดส่วนอยู่ที่ 24% ซึ่งแสดงให้เห็นว่า ผู้หญิงส่วนใหญ่ให้ความสำคัญกับครอบครัวมากกว่าการหาคู่มากกว่าผู้ชาย นอกจากนี้ยังพบอีกว่า ผู้ชายกว่า 70% ยินดีให้เบอร์โทรศัพท์กับคนแปลกหน้าต่างเพศ ในขณะที่มีผู้หญิงเพียง 34% ที่ตอบเหมือนกัน ตรงนี้แสดงให้เห็นว่าผู้ชายส่วนมากจะเปิดโอกาสให้ตัวเองในการรู้จักคนใหม่ๆมากกว่าผู้หญิง
การเข้าหาเพื่อทำความรู้จัก
จากผลการสำรวจ พบว่า ผู้หญิงที่มีอายุมากขึ้น มีแนวโน้มที่จะเปิดกว้างมากกว่า โดยจำนวนของผู้หญิงวัย 23-29 ปี ที่ตอบว่าเธออาจเริ่มคุยกับคนแปลกหน้าได้ หากเขายิ้มให้ และที่ตอบว่าไม่คิดจะเริ่มคุยเลย เป็นสัดส่วนใกล้เคียงกัน คืออยู่ที่ 29% และ 31% ตามลำดับในขณะที่ผู้หญิงวัย 30-36 ปี 34% ตอบว่า ไม่คิดจะเริ่มคุยเลย และวัย 37 ปี ขึ้นไปเพียง 17% ที่ตอบเหมือนกัน ทั้งนี้ทั้งนั้น ผู้หญิงทุกวัยกว่า 40% บอกว่า อาจต้องดูอย่างอื่นประกอบด้วยเช่น ความน่าไว้วางใจ หรือสภาพแวดล้อมและสถานการณ์ในตอนนั้น มาดูที่ฝ่ายชาย ผู้ชายวัย 23-29 ปีกว่า 60% และวัย 37 ปีขึ้นไป 50% บอกว่าเขาอาจเริ่มบทสนทนากับเพศตรงข้ามก่อน หากฝ่ายนั้นยิ้มให้ ส่วนผู้ชายวัย 30-36 ปี 45% ตอบว่าขึ้นอยู่กับความพึงพอใจ และสถานการณ์ในตอนนั้น ตรงนี้แสดงให้เห็นว่าลักษณะภายนอกเป็นสิ่งสำคัญในการสร้างความประทับใจให้ผู้พบเห็น ดังนั้นเราควรดูแลตนเองให้ดูดีตลอดเวลา
ช่องทางในการปฏิเสธ
สุดท้าย ถามเรื่องการปฏิเสธ เมื่อไปออกเดทและไม่ประทับใจฝ่ายตรงข้าม แต่เขาอยากพบคุณอีก ทั้งผู้หญิงและผู้ชายทุกวัยส่วนใหญ่ตอบว่า จะเลือก "โทรศัพท์" เป็นช่องทางในการปฏิเสธมากกว่าช่องทางอื่น โดยอยู่ที่ 50% ทั้งทางฝ่ายหญิงและชาย ส่วนที่ฝ่ายชายตอบรองลงมาคือ "บอกเมื่อเจอกัน" อยู่ที่ 17% และที่ฝ่ายหญิงตอบรองลงมาคือ "การส่งข้อความ" อยู่ที่ 14% ตามลำดับ